เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? ในวันที่เริ่มต้นและสิ่งที่แฝงอยู่

เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? ในวันที่เริ่มต้นและสิ่งที่แฝงอยู่

"เมื่อวานเจ๊ทานอะไร?" โยชินางะ ฟูมิ นั้นเริ่มตีพิมพ์ในนิตยสาร Morning ตั้งแต่ปี 2007 เรี่อยมาถึงปัจจุบัน จนกระทั่งได้เป็นซีรี่ส์ในปี 2019 และกำลังจะมีหนังโรงในญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน 2021 ภายในการ์ตูนเรื่องนี้เนื้อหาหลายอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ แต่การ์ตูนเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นอย่างไรกันแน่... ซึ่งบทสัมภาษณ์ของโยชินางะ ฟูมิ นั้นมีประเด็นสำคัญหลายอย่างที่น่าสนใจมาก

แต่เดิมแล้วโยชินางะ ฟูมิ ตั้งใจเขียนออกมาเป็นแนว BL ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น แต่บรรณาธิการนิตยสารส่วนใหญ่ที่เข้าไปปรึกษานั้นไม่ค่อยเห็นด้วยกับไอเดียการสร้างผลงาน BL ที่่มีตัวเดินเรื่องเป็นผู้ชายวัยกลางคน และองค์ประกอบด้านสกินชิพมีน้อยเกินไป ทำให้คุณโยชินางะต้องหานิตยสารฉบับใหม่ไปเรื่อยๆ จนได้มีการติดต่อกับนิตยสาร Morning ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณโยชินางะก็ไม่ได้คาดหวังกับนิตยสารฉบับนี้ แต่โปรเจคกลับผ่านได้แบบไม่คาดคิด แถมยังไม่ถูกขอให้ปรับแก้แนวเรื่อง ทำให้คุณโยชินางะได้ถ่ายทอดเรื่องราวอาหารประจำวันของชิโร่กับเคนจิได้ตามที่ตัวเองต้องการ

คุณโยชินางะนั้นชอบเรื่องการอธิบาย จึงวาดการ์ตูนในลักษณะการอธิบายวิธีการทำ ในกรณีของ "เมื่อวานเจ๊ทานอะไร" นั้นพอวางโครงได้ ก็ตัดสินใจวางบทพูดได้แบบม้วนเดียวจบ เพราะในเวลาประชุมกับกองบรรณาธิการนั้นก็มักจะอธิบายเนื้อในของการ์ตูนอย่างเป็นรูปธรรมอยู่แล้ว จึงหยิบบทสนทนามาวางใส่ได้อย่างลงตัว ขณะที่ในด้านการเซ็ตติ้งตัวละครที่ให้คนหนึ่งเป็นสายเปิดเผย อีกคนเป็นสายปิดบังนั้น เพื่อให้ผู้อ่านไม่หลงไปโฟกัสกับเรื่องใครเป็นฝ่ายรุกฝ่ายรับมากเกินไป รวมถึงตัดสินใจไม่วาดเลิฟซีนระหว่างสองคน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นความคิดส่วนตัวของคุณโยชินางะที่ไม่คิดว่าเรื่องอาหารกับเรื่องทางเพศจะไปกันได้

ในส่วนของอาหารในเรื่องนั้น เริ่มแรกจะวาดให้เป็นการ์ตูนที่เกี่ยวกับ "ข้าว" อยู่แล้ว คุณโยชินางะจึงตัดสินใจไม่แนะนำอาหารจานเดียว แต่จะมีอาหารที่เป็นเครื่องเคียงด้วย ดังนั้น 1 ตอนจึงมีสูตรมากมาย นอกจากนี้ในการ์ตูนแต่ละเล่มนั้น มีภาพของอาหารลงอยู่ด้วย ซึ่งคุณโยชินางะเป็นผู้ทำและถ่ายภาพเอง เหตุผลก็คือคุณโยชินางะต้องการวาดขั้นตอนการทำ จึงต้องสร้างต้นแบบขึ้นมาก่อน อาหารในหลายๆ ตอนนั้นก็มีทีมงานกับครอบครัวคอยชิมให้ โดนเฉพาะ "ปีกไก่ต้มกระเทียม" ในเล่ม 9 เป็นอาหารเร่งด่วนประจำบ้านเลยทีเดียว

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจก็คือ ในการ์ตูนนั้นชิโร่กับเคนจิจะอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับความเป็นจริง และโตไปพร้อมกับผู้อ่าน คุณโยชินางะนั้นชอบวาดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย โดยมีเรื่องของความแก่ตัว แม้จะเป็นคนเดียวกัน แต่ผ่านไป 1 ปีก็จะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปบ้าง เช่น อุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่ใช้ แน่นอนว่าท่าทีของตัวละครที่มีต่อกันก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน ชิโร่กับเคนจิก็มีอายุเข้าหลัก 50 ปีแล้ว 

...แต่สิ่งสำคัญคือ การสื่อให้คนอ่านได้รู้ว่าสิ่งที่รับประทานเข้าไปนั้น มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้คนเรามีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นอย่าลืมทานอาหารแต่พอดีเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยนะครับ